วลีที่ฟังแล้วสะดุดหูขึ้นมาทันทีตั้งแต่แรกเห็นตัวอย่างหนัง “จันดารา ปฐมบท” ผลงานลำดับที่สามถัดจากชั่วฟ้าดินสลาย (2553) และอุโมงผาเมือง (2554) หลังการห่างหายไปนานร่วม 13 ปีนับตั่งแต่อันดากับฟ้าใสเมื่อปี 2540 ของผู้กำกับระดับปรมาจารย์ทางการแสดง “หม่อมน้อย : หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล”
ในครั้งนี้หม่อมน้อยได้หยิบบทประพันธ์อีโรติกสุดคลาสสิกของไทยเรื่อง “จัน ดารา” ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2507 ของ อุษณา เพลิงธรรม (ประมูล อุณหธูป) มาดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์อีกครั้ง ถัดจากอุ๋ย : นนทรีย์ นิมิบุตร เมื่อปี 2544 และรัตน์ เศรษฐภักดี เมื่อปี 2520 โดยแบ่งหนังออกเป็นสองภาค ปฐมบทและปัจฉิมบท เพื่อเก็บรายละเอียดจากบทประพันธ์ให้ได้มากที่สุด โดยกล่าวถึงจันดาราตั้งแต่จุดเริ่มต้นชีวิต ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันอบอวนไปด้วยกามา ตัณหา การเสพสังวาส พร้อมปมในใจที่ทำให้เขา “กระหายทรวงอกอันอบอุ่นของสตรีเพศอยู่ร่ำไป”
ในครั้งนี้หม่อมน้อยได้หยิบบทประพันธ์อีโรติกสุดคลาสสิกของไทยเรื่อง “จัน ดารา” ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2507 ของ อุษณา เพลิงธรรม (ประมูล อุณหธูป) มาดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์อีกครั้ง ถัดจากอุ๋ย : นนทรีย์ นิมิบุตร เมื่อปี 2544 และรัตน์ เศรษฐภักดี เมื่อปี 2520 โดยแบ่งหนังออกเป็นสองภาค ปฐมบทและปัจฉิมบท เพื่อเก็บรายละเอียดจากบทประพันธ์ให้ได้มากที่สุด โดยกล่าวถึงจันดาราตั้งแต่จุดเริ่มต้นชีวิต ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันอบอวนไปด้วยกามา ตัณหา การเสพสังวาส พร้อมปมในใจที่ทำให้เขา “กระหายทรวงอกอันอบอุ่นของสตรีเพศอยู่ร่ำไป”

และด้วยปมนี้เองเป็นเหมือนเส้นเรื่องหลักของจันดารา (โอ้ : มาริโอ้ เมาเร่อ) กับการตกอยู่ในวังวนแห่งกรรมตัณหา ชีวิตจันกำเนิดขึ้นพร้อมการจากไปของมารดา มีน้าวาด (ตั๊ก : บงกช คงมาลัย) น้องสาวแม่คอยเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน รวมถึงให้ความอบอุ่นผ่านทรวงอกราวกับแม่ผู้ให้กำเนิด กลิ่นรสกายภายใต้อ้อมกอด ทรวงอกอันอบอุ่น ผนวกเข้ากับภาพการเสพสังวาสของคุณหลวง (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้เป็นพ่อที่กระทำต่อน้าวาด กลายเป็นเงื่อนปมผูกติดยึดอยู่ในใจจันดาราตั้งแต่เด็กจนเติบโต


จัน เติบโตภายใต้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยราคะภายในบ้านวิสนันท์ คุณหลวงเป็นผู้มักมากในกามพร้อมเสพสังวาสกับใครก็ได้ไม่ว่าชายหรือหญิง เพื่อสำแดงพลังแห่งอำนาจการควบคุมคนในบ้านวิสนันท์ให้อยู่ใต้อาณัติ คุณหลวงทำตัวราวกับเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ต้องการเป็นผู้นำจ่าฝูงจากการสมสู่
ด้วยความลุ่มหลงมัวเมากามแห่งอำนาจ ผนวกเข้ากับความเจ็บแค้นจากเหตุการณ์ในอดีตก่อนจันดาราเกิด ส่งผลให้คุณหลวงใช้จันเป็นเครื่องระบายความแค้น จันมักถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ โดยไม่เข้าใจเหตุใดผู้เป็นพ่อถึงกระทำกับตนเองได้มากมายเช่นนี้ เรื่องราวปฐมบทจันดาราจบลงที่ความจริงในอดีตถูกเปิดเผย จันต้องย้ายออกจากบ้านวิสนันท์ พร้อมความกระจ่างกับคำว่า “ไอ้จัญไร” ที่คุณหลวงใช้เรียกแทนชื่อลูกชายของตัวเอง

การที่หม่อมน้อยแบ่งหนังออกเป็นสองภาค จึงง่ายต่อการถ่ายทอดพัฒนาการอารมณ์ความรู้สึกของจันดารา ที่เปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงอายุ จากเด็กน้อยไร้เดียงสาถูกผู้ใหญ่ยัดเยียดความผิดจนกลายเป็นปมในใจ เติบโตขึ้นเป็นหนุ่มน้อยผู้ไม่ประสีประสาในเรื่องเพศแต่อยากรู้อยากลอง สู่หนุ่มใหญ่ผู้เฝ้ารอวันชำระความแค้น และสุดท้ายกลายเป็นชายชราผู้เล่าเรื่องราวในอดีตให้คนดูได้รับรู้
ด้วยเนื้อหาจากบทประพันธ์จันดารามีชีวิตที่น่าสงสาร เกิดมาพร้อมความเกลียดชัง เต็มไปด้วยความเก็บกด มีปมในใจ เมื่อนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หากไม่มีการปรับแต่งภาพรวมของหนังอาจดูหนักจริงจังจนเกินไป หม่อมน้อยใช้อารมณ์ขันเพื่อลดโทนของหนังลงไม่ให้ดูเครียดมากนัก ทำให้บุคลิกของคุณหลวงอาจดูแปลก ดูตลก ไม่น่าเกรงขามเท่าที่ควร ขณะที่เคน (ชัยพล พูพาร์ต) คนรับใช้เพื่อนสนิทของจันดารา ก็ดูสนุกสานานเริงร่ากับการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่เลือกหน้า อารมณ์ดี ยิ้มได้ตลอดเวลาไม่ว่าสถานการณ์ใด


เคน คือผู้สอนให้จันได้รู้จักการเปิดบริสุทธิ์เป็นครั้งแรก เขาเป็นเหมือนตัวแทนวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัยที่มักเรียนรู้เรื่องเพศร่วมกันกับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่หรือครูอาจารย์ และหากสังเกตุให้ดีจะพบว่าการมีเพศสัมพันธ์ของจันและแก้ว (โช นิชิโนะ) น้องสาวต่างมารดาลูกของน้าวาด ล้วนแล้วแต่มาจากพฤติกรรมการเลียนแบบด้วยกันทั้งคู่
ภาพการเสพสังวาสระหว่างคุณหลวงกับน้าวาดถูกตัดเข้ามาทุกครั้ง เมื่อจันมีความรู้สึกทางเพศก่อนการมีเพศสัมพันธ์ หรือภาพการมัดแขนทั้งสองข้างกับเสาเตียงนอนที่แก้วแอบเห็นการมีเพศสัมพันธ์ มันถูกใช้เป็นพฤติกรรมเลียนแบบระหว่างแก้วกับเคนในช่วงสุดท้ายของหนัง ดูเหมือนว่าหม่อมน้อยพยามชี้ให้เห็นถึงการเรียนรู้เรื่องเพศของวัยรุ่นนอกจากเพื่อนแล้ว พฤติกรรมการเลียนแบบจากสิ่งที่เห็นมีส่วนอย่างยิ่งต่อพัฒนาการเรียนรู้ในเรื่องนี้
ภาพการเสพสังวาสระหว่างคุณหลวงกับน้าวาดถูกตัดเข้ามาทุกครั้ง เมื่อจันมีความรู้สึกทางเพศก่อนการมีเพศสัมพันธ์ หรือภาพการมัดแขนทั้งสองข้างกับเสาเตียงนอนที่แก้วแอบเห็นการมีเพศสัมพันธ์ มันถูกใช้เป็นพฤติกรรมเลียนแบบระหว่างแก้วกับเคนในช่วงสุดท้ายของหนัง ดูเหมือนว่าหม่อมน้อยพยามชี้ให้เห็นถึงการเรียนรู้เรื่องเพศของวัยรุ่นนอกจากเพื่อนแล้ว พฤติกรรมการเลียนแบบจากสิ่งที่เห็นมีส่วนอย่างยิ่งต่อพัฒนาการเรียนรู้ในเรื่องนี้

เช่นเดียวกับภาพข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เด็กวัยรุ่นสมัยนี้มักเรียนรู้เรื่องเซ็กซ์ จากหนังแผ่น จากอินเตอร์เน็ต แล้วเลียนแบบพฤติกรรมจากสิ่งที่เห็น โดยไม่เข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นบางอย่างมันเป็นเพียงการแสดง เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนดูหนังจบคงต้องกลับไปสำรวจตัวเองว่าขณะปฏิบัติกามกิจอยู่นั้น ลูกของตัวเองหลับสนิทอยู่หรือเปล่า !
ภาพการมีเพศสัมพันธ์ในหนังอาจดูล่อแหลมมากเมื่อเทียบกับหนังไทยทั่วๆไป หากแต่ไตร่ตรองถึงเหตุผลของฉากดังกล่าวก็จะพบว่า มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของคนดู แต่ต้องการชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติของมนุษย์กับการเรียนรู้ในเรื่องเพศ หากขาดการยับยั้งชั่งใจก็จะตกเป็นเหยื่ออารมณ์เพศของตัวเองมากกว่า
ภาพการมีเพศสัมพันธ์ในหนังอาจดูล่อแหลมมากเมื่อเทียบกับหนังไทยทั่วๆไป หากแต่ไตร่ตรองถึงเหตุผลของฉากดังกล่าวก็จะพบว่า มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของคนดู แต่ต้องการชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติของมนุษย์กับการเรียนรู้ในเรื่องเพศ หากขาดการยับยั้งชั่งใจก็จะตกเป็นเหยื่ออารมณ์เพศของตัวเองมากกว่า


หน่อมน้อยเลือกใช้ภาพขาวดำ ภาพมุนกว้าง ภาพมุมสูง รวมถึงการตัดสลับภาพไปมา ในการลดทอนอารมณ์ของคนดูไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปมากกว่านี้ โดยไม่นำเสนอภาพระยะใกล้ใช้กล้องมาโลมเลียไปตามผิวกายของนักแสดงให้เห็นมากนัก ดังนั้นฉากการมีเพศสัมพันธ์ในหนังเรื่องนี้ หลายเสียงต่างลงความเห็นว่ามันเป็นศิลปะไม่ใช่ลามกอนาจาร
งานด้านภาพและองค์ประกอบศิลป์ในจันดาราปฐมบท ยังคงความประณีตวิจิตรบรรจงไม่ต่างจากผลงานก่อนหน้าของหม่อมน้อย รายละเอียดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ประกอบฉาก สถานที่ อาคารบ้านเรือน ล้วนถูกปรับแต่งได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ จันดารามีชีวิตอยู่ถึง 4 รัชกาล ดังนั้นภาพรวมขององค์ประกอบศิลป์แต่ละยุคสมัยจึงมีส่วนไม่น้อย ทำให้หนังดูสวยงามน่าเชื่อถือ นอกเหนือจากบทบาทของนักแสดงแต่ละคน
งานด้านภาพและองค์ประกอบศิลป์ในจันดาราปฐมบท ยังคงความประณีตวิจิตรบรรจงไม่ต่างจากผลงานก่อนหน้าของหม่อมน้อย รายละเอียดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ประกอบฉาก สถานที่ อาคารบ้านเรือน ล้วนถูกปรับแต่งได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ จันดารามีชีวิตอยู่ถึง 4 รัชกาล ดังนั้นภาพรวมขององค์ประกอบศิลป์แต่ละยุคสมัยจึงมีส่วนไม่น้อย ทำให้หนังดูสวยงามน่าเชื่อถือ นอกเหนือจากบทบาทของนักแสดงแต่ละคน

ตั๊ก : บงกช คงมาลัย คือนักแสดงที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดในจันดารา ปฐมบท การทุ่มสุดตัวแบบไร้อาภรณ์ปิดกาย หากไม่ได้มาพร้อมการแสดงเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึกของน้าวาดที่มีต่อจันแล้วละก็ คำชื่นชมคงไม่มากมายขนาดนี้ หนึ่งในห้าของผู้ถูกเสนอชื่อนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในเวทีประกวดปลายปีนี้ต้องมี บงกช คงมาลัย อยู่ด้วยอย่างแน่นอน


ส่วน มาริโอ้ เมาเร่อ ยังดูไม่โดดเด่นนักในปฐมบทแรกนี้ อาจเพราะเป็นช่วงชีวิตจันนดาราตั้งแต่เด็กจนถึงวัยรุ่น การใช้อารมณ์ทางการแสดงยังไม่มากนัก เช่นเดียวกับญาญ่าหญิง : รฐา โพธิ์งามในบทคุณบุญเลื่อง ปฐมบทนี้เป็นเพียงการแนะนำให้รู้จักตัวละครนี้เท่านั้น ในภาคถัดไปปัจฉิมบทเมื่อความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสองมีมากขึ้น เราจะได้เห็นพัฒนาการทางการแสดงของมาริโอ้ศิษย์หม่อมน้อยที่มีอย่างต่อเนื่องได้มากกว่านี้ รวมถึงฝีมือทางการแสดงของญาญ่าหญิงที่ไม่ใช่แค่เพียงเดินโชว์เนินอก หรือเปลือยเปล่าแผ่นหลังเพื่อให้จันนำน้ำแข็งมาลูบไล้เพื่อดับร้อนเท่านั้น


แม้ภาพรวมของหนังจันดาราจะดูดีตามแบบมาตรฐานของหม่อมน้อย แต่มีสิ่งหนึ่งติดค้างในใจ ว่าด้วยเงื่อนไขอะไรทำให้หม่อมน้อยเลือกดาราหนังเอวีอย่างโช นิชิโนะมารับบทคุณแก้ว ไม่ว่าจะมองมุมไหนดาราเอวีผู้นี้ก็ดูไม่เหมาะกับบทนี้เลย แก้วกลายเป็นตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดของหนัง ไม่แน่ใจว่าเพราะฉากสุดท้ายที่ต้องโชว์เนินเนื้อเบื้องล่างหรือเปล่า ทำให้ต้องนำดาราผู้นี้มาแสดง ไม่มีดาราไทยคนใดกล้าพอมารับบทแบบนี้

มนุษย์มักแอบอ้างเสมอว่าชาติพันธุ์ของตนเองมีอารยะ มีวัฒนธรรม มีความคิด เป็นสัตว์ประเสริฐแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉาน แต่พฤติกรรมของมนุษย์บางคนก็ยอมให้ความลุ่มหลงในอำนาจ ความมัวเมาทางเพศ มากดชีวิตให้ต่ำลง เพียงเพราะต้องการเสพสุขในเพศรส โดยไม่สนใจว่ามันจะส่งผลต่อคนรอบข้างอย่างไร และจันดาราก็เป็นหนึ่งตัวอย่างชีวิตที่ถูกปกคลุมด้วยกามา ตัณหา การเสพสังวาส ปั้นปลายชีวิตของชายผู้นี้จะพัฒนาต่อไปอย่างไร ความแค้น ความลุ่มหลงในกามจะครอบงำจิตใจเขามากน้อยแค่ไหน จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมจากการล้างแค้น ต้องติดตามกันต่อใน "จันดารา ปัจฉิมบท" อีกไม่นานเกินรอ
0 comments:
Post a Comment