วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 00:01 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 3885 คน

ทะลุคนทะลวงข่าว




 ยืนยันจาก วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กรณีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รัฐบาลทำตามหน้าที่ประกอบด้วย 3 ประการ
 

 ตามกฎหมาย ตามประเพณี และตาม ความคาดหมายของประชาชน

(จากซ้าย) สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์/ สมเด็จพระวันรัต/ วิษณุ เครืองาม 

 หลังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชตามมติมหาเถรสมาคม (มส.) เสนอถึง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพุทธฯแล้ว เพื่อเสนอต่อยังรองนายกฯวิษณุ ก่อนเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป
 

 โดยเสนอนาม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่ สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 เพียงรูปเดียว
 

 รองนายกฯย้ำว่า เมื่อเรื่องมาถึงรัฐบาลจะต้องใช้กฎหมายประเพณีที่เคยปฏิบัติ และใช้ความคาดหมายของประชาชนมาเป็นตัวประกอบ เนื่องจากรัฐบาลบริหารประเทศจะต้องคำนึงถึงความถูกต้อง ความพอใจ ความยอมรับของประชาชน
 

 ย้ำอีกว่ารัฐบาลไม่ได้ถือกระแสคัดค้านมาเป็นหลัก เพราะไม่ว่าจะมีการแต่งตั้งใดๆ ย่อมมีคนคัดค้านเป็นธรรมดา แต่จะต้องดูด้วยว่าผลของการคัดค้านนั้นนำไปสู่สิ่งใด หากนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อย รัฐบาลก็ต้องทำให้สงบเรียบร้อย
 

 "การค้านนั้นนำไปสู่ผลอะไร ถ้าค้านแล้วนำไปสู่ความไม่เข้าใจ แตกแยก ไม่สงบ รัฐบาลก็ต้องจัดการทำให้เรื่องเหล่านั้นบรรเทาเบาบาง ส่วนจะใช้วิธีใดคงไม่ขอตอบเพราะรัฐบาลไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตามจะไม่นำเรื่องไม่ ถูกต้อง ไม่เหมาะสม คนยังวิพากษ์วิจารณ์ ต่อต้าน เกิดความไม่สงบ ขึ้นกราบบังคมทูลเป็นอันขาด"
 

 ได้ชื่อเนติบริกรคู่บุญหลายคณะปฏิวัติ
 

 รองนายกฯ 2 สมัย ครั้งล่าสุดนี้ รับผิดชอบดูแลงานกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ ราชบัณฑิตยสภา
 

 และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
 

 ทั้งนี้ เกี่ยวกับค้าน ระบุว่า "เมื่อวันนี้ ข้อคัดค้านสมเด็จวัดปากน้ำก็ต้องดูว่าเพราะอะไร รัฐบาลต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อกล่าวหานั้นเสียก่อน"
 

 ย้อนไปวันประชุมวาระพิเศษ วันที่ 5 ม.ค.2559 ในการพิจารณาเสนอรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะ เพื่อทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติส่งเรื่องไปยังรัฐบาล ในการประชุมวันดังกล่าวมีกรรมการมหาเถรสมาคมเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 17 รูป
 

 3 รูปที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย, สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศาราม เนื่องจากอาพาธ และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุทัศนเทพ วราราม เนื่องจากอาพาธ ไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้
 

 ระหว่างการประชุม สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้เสนอรายชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพียงรูปเดียว และที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ 17 ต่อ 0
 

 สมเด็จพระวันรัต นามเดิม จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์ เกิด 17 ก.ย. 2479 บรรพชาเมื่อ 12 พ.ค. 2491 ณ วัดคีรีวิหาร จ.ตราด โดยมีพระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตฺตโร) เป็นพระอุปัชฌาย์
 

 กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท 8 ก.ค. 2499 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง วชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยบัณฑิตเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูวิสุทธิธรรมภาณ (แจ่ม ธมฺมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
 

 ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค จากสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
 

 ผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติไทย) และให้ความเห็น ก่อนที่จะประกาศใช้ในแต่ละปี นอกจากนี้ยังเดินหมุดและคำนวณปฏิทินปักขคณนาสำหรับวันลงอุโบสถให้กับคณะสงฆ์ ธรรมยุตด้วย
 

 พ.ศ.2552 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระวันรัต
 

 ล่าสุด สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มอบตราตั้งพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งเป็นเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต และเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
 

 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) นามเดิม ช่วง สุดประเสริฐ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคมโดยสมณศักดิ์ และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
 

 เกิด 26 ส.ค. 2468 ที่อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
 

 บรรพชา เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2482 ณ วัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ โดยมีพระครูศีลาภิรัต (ทอง) วัดลาดกระบัง เป็นอุปัชฌาย์ และอุปสมบทเมื่อ 11 พ.ค. 2488 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระครูบริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูสมณธรรมสมาทาน เป็นกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า "วรปุญฺโญ"


 สำเร็จเปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
 

 พ.ศ.2508 เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ พระอารามหลวง
 

 เคยเป็นเจ้าคณะภาค 3 รวม 2 สมัย และเจ้าคณะภาค 17 รวม 3 สมัย รวมถึงเจ้าคณะภาค 7 และเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ
 

 พ.ศ.2548 เป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ก่อนเป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
 

 เมื่อถามรองนายกฯวิษณุ กรณีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชถือเป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลหรือไม่
 

 คำตอบคือ ถ้าตอบว่าไม่เร่งด่วนก็จะถูกตีความว่าจะดองเรื่อง แต่ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนก็จะถูกตีความว่าจะอาศัยทีเผลอแล้วเสนอทันที เป็นการเชิญแขกทั้งสองคำตอบ ดังนั้นขอให้เป็นกุศโลบาย คำนี้มาจากคำว่ากุศลบวกอุบาย ซึ่งรัฐบาลจะต้องรู้สำหรับกุศโลบายนี้
 

 ทั้งแจงสถานการณ์ที่เคยเป็นมาในอดีต ว่าหากจะเอาตามประเพณีแล้วก็มีทุกแบบ จึงจะมาอ้างว่าต้องเร็วหรือช้าไม่ได้ เพราะในทุกคราวต่างมีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น จึงต้องดูความเหมาะสม
 

 พร้อมกับเฉลยว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการสามารถปฏิบัติภารกิจทุกอย่างได้ทั้งหมดในช่วงนี้

0 comments:

Post a Comment

 
Top